AWC จัดงบ 934 ล้านบาท ซื้อโรงแรม ดุสิต ดีทู เชียงใหม่

AWC จัดงบ 934 ล้านบาท เข้าซื้อโรงแรม ดุสิต ดีทู เชียงใหม่ จาก บลจ.กรุงไทยและกลุ่มดุสิต รวม 565 ล้านบาท พร้อมตั้งงบลงทุนพัฒนาอีก 369 ล้านบาท

บริษัทแอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC เปิดเผยว่า ตามที่ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 9/2564 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2564 ได้มีมติอนุมัติเข้าลงทุนและพัฒนาที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง และทรัพย์สินโครงการ ดุสิต ดีทู เชียงใหม่ พร้อมงบลงทุนซื้อหวยออนไลน์ถูกกฎหมายมั่นใจได้เพื่อพัฒนาทรัพย์สินในโครงการของโรงแรม รวม 3 รายการ เป็นงบลงทุนเบื้องต้น 934 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. การเข้าทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน จำนวน 7 แปลง ตามโฉนดเลขที่ 2503, 12432, 12433, 12434, 12435, 20166 และ 20167 เลขระวาง 4846 IV 0076-9 หน้าสำรวจ 391, 1170, 1171, 1172, 1173, 1773 และ 1774 เลขที่ดิน 2687, 2686, 2685, 2684, 2654, 2683 และ 2655 ตำบลช้างคลาน อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ รวมเนื้อที่ดิน 2 ไร่ 2 งาน 65 ตารางวา พร้อมสิ่งปลูกสร้าง และทรัพย์สินประเภทสังหาริมทรัพย์ที่ใช้ในการประกอบกิจการโรงแรมของโรงแรม ดุสิต ดีทู เชียงใหม่ (ทรัพย์สินในโครงการโรงแรม ดุสิต ดีทู เชียงใหม่) ระหว่าง บริษัท ทรัพย์ ทีซีซี โฮเทล เชียงใหม่ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท (บริษัทถือหุ้นทางตรงและทางอ้อม 100% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด) กับบริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดุสิตธานี (DREIT) โดยมีมูลค่ารวมสุทธิจำนวน 435,000,000 บาท (ซึ่งราคาดังกล่าวไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยบริษัทและ DREIT รับผิดชอบชำระค่าธรรมเนียมจากการจดทะเบียนทั้งหมดที่เกี่ยวข้องฝ่ายละครึ่ง และ DREIT ในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบภาระภาษีอากรที่เกี่ยวข้องเองทั้งสิ้น

 

2. การเข้าทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินโฉนดเลขที่ 30 ตำบลช้างคลาน อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ และสิ่งปลูกสร้าง ระหว่าง บริษัท ทรัพย์ ทีซีซี โฮเทล เชียงใหม่ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท (บริษัทถือหุ้นทางตรงและทางอ้อม 100% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด) กับ บมจ.ดุสิต ไทยพร็อพเพอร์ตี้ส์ โดยมีมูลค่ารวมจำนวน 130,000,000 บาท

3. งบลงทุนเพื่อใช้ในการพัฒนาทรัพย์สินในโครงการโรงแรม ดุสิต ดีทู เชียงใหม่ ตามข้อ 1 และทรัพย์สิน ตามข้อ 2 จำนวนประมาณ 369 ล้านบาท (ซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)