กสิกรไทย จัดสินเชื่อซื้อรถ EV ส่งโปรโมชั่นขับฟรี 90 วัน ผ่อน 0 บาท

ธนาคารกสิกรไทยเปิดตัวโครงการ GO GREEN Together ประเดิมด้วยแคมเปญสินเชื่อ GREEN ZERO วงเงิน 3,000 ล้าน พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ สินเชื่อรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ขับฟรี ผ่อน 0 บาท 90 วัน สินเชื่อบ้านและธุรกิจติดตั้งแผงโซลาร์ประหยัดพลังงานได้ดอกเบี้ย 0% นาน 3 เดือน

วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 นายกฤษณ์ จิตต์แจ้ง กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า กสิกรไทย ได้เปิดตัวโครงการ GO GREEN Together ชวนคนไทยรักษ์โลกไปด้วยกัน โดยเป็นธนาคารแรกที่เชื่อมโยงและผลักดันให้เกิด Green Ecosystem อย่างครบวงจร

ประเดิมเปิดโครงการด้วยแคมเปญสินเชื่อ GREEN ZERO จัดให้ครบทั้งสินเชื่อพร้อมโปรโมชั่นพิเศษ สำหรับลูกค้ารายย่อยและลูกค้าธุรกิจ ธนาคารเตรียมวงเงินสินเชื่อไว้ 3,000 ล้านบาท ซึ่งมีรายละเอียดสินเชื่อ ดังนี้

กฤษณ์ จิตต์แจ้ง
1.สินเชื่อรถยนต์พลังงานไฟฟ้า สำหรับรถยนต์ทุกยี่ห้อในกลุ่ม BEV (Battery-Electric-Vehicle) วงเงินกู้สูงสุด 12 ล้านบาท ระยะเวลาผ่อนสูงสุด 7 ปี โปรโมชั่นพิเศษ ขับฟรี ผ่อน 0 บาท ระยะเวลา 90 วัน

2.สินเชื่อบ้านเพื่อติดตั้งแผงโซลาร์ ทั้งการขอสินเชื่อเพื่อบ้านใหม่ รีไฟแนนซ์ สินเชื่อบ้านกู้เพิ่มได้ และสินเชื่อบ้านช่วยได้ โปรโมชั่นพิเศษ ฟรีดอกเบี้ย 0% นาน 3 เดือน

3.สินเชื่อธุรกิจเพื่อติดตั้งแผงโซลาร์ วงเงินกู้สูงสุด 100% ของมูลค่าโครงการ ระยะเวลากู้สูงสุด 8 ปี และสินเชื่อรับประกันการประหยัดพลังงาน วงเงินกู้สูงสุด 100% ของเงินลงทุน ระยะเวลากู้สูงสุด 7 ปี โปรโมชั่นพิเศษ ฟรีดอกเบี้ย 0% นาน 3 เดือน

ทั้งนี้ ลูกค้าที่สนใจร่วมแคมเปญสินเชื่อ GREEN ZERO สามารถสมัครได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขาหรือผู้ดูแลความสัมพันธ์ลูกค้า ตั้งแต่วันนี้-30 มิถุนายน 2565 หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ K Contact Center 0-2888-8888

“การเปิดตัวโครงการ GO GREEN Together ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ธนาคารอยากชวนทุกคนในสังคมไทยร่วมกันรักษาสิ่งแวดล้อม โดยธนาคารพร้อมสนับสนุนให้ Green Ecosystem เกิดขึ้นจริงในประเทศไทย เพื่อให้พวกเราทุกคนร่วมมือกันทำให้เป้าหมายการเป็น Net Zero ของประเทศไทยเกิดขึ้นได้ แคมเปญนี้เป็นแค่การเริ่มต้น หลังจากนี้ธนาคารจะมีโครงการด้านสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง ธนาคารกสิกรไทยไม่หยุดที่จะมุ่งมั่นในเรื่องการดูแลสิ่งแวดล้อมเพื่อร่วมส่งมอบโลกที่ยั่งยืนต่อไป” นายกฤษณ์กล่าว

นายกฤษณ์กล่าวว่า ภาวะโลกร้อนไม่ใช่เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น แต่สถานการณ์ตอนนี้ใกล้ถึงจุดวิกฤตจากการใช้ชีวิตของมนุษย์ที่มีส่วนทำให้สถานการณ์รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ส่งผลให้เกิดภัยพิบัติและผลกระทบต่าง ๆ ถึงเวลาที่พวกเราต้องร่วมมือกันอย่างจริงจังและลงมือทำทันทีเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และช่วยให้โลกของเราอยู่รอด

 

เนื่องจากภาวะโลกร้อนเป็นวิกฤตที่ตื่นตัวกันทั่วโลก หลายประเทศออกมาตรการเพื่อควบคุมเรื่องนี้ เช่น EU ประกาศหยุดจำหน่ายรถเครื่องยนต์สันดาป ในปี 2578 (ค.ศ. 2035) และเตรียมเก็บภาษีคาร์บอนสินค้านำเข้า ปี 2566 (ค.ศ. 2023)

อีกทั้งประเทศยักษ์ใหญ่อย่างจีนก็ประกาศตั้งเป้าปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ในปี 2603 (ค.ศ. 2060) และประเทศไทยก็มีการตื่นตัวเช่นกัน โดยรัฐบาลได้ประกาศ Net Zero ในปี 2608 (ค.ศ. 2065) และออกมาตราการพิเศษให้เงินอุดหนุนและลดภาษีนำเข้ารถยนต์พลังงานไฟฟ้า ในปี 2565-2568 (ค.ศ. 2022-2025)

ธนาคารกสิกรไทยจึงมีความเชื่อว่าเรื่องของการดำเนินงานอย่างยั่งยืนจะทำให้ธนาคาร ลูกค้า และประเทศอยู่รอดและเติบโตไปด้วยกัน ธนาคารจึงมุ่งมั่นแสดงความรับผิดชอบเรื่องความยั่งยืนในมิติต่าง ๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือเรื่องของสิ่งแวดล้อมที่ธนาคารทำมาอย่างยาวนานและทำต่อเนื่อง

โดยเริ่มต้นรับผิดชอบที่ตัวเองก่อนในการจัดการดำเนินงานต่าง ๆ ของธนาคาร เช่น อาคารประหยัดพลังงาน การใช้พลังงานชีวมวล การใช้รถยนต์ EV การใช้อุปกรณ์ประหยัดพลังงาน นอกจากนี้ธนาคารยังสนับสนุนลูกค้า

“ในปี 2564 ที่ผ่านมาให้ธนาคารได้สนับสนุนการเงินสีเขียว (Green Finance) รวม 65,200 ล้านบาท โดย 17,500 ล้านบาท เป็นการปล่อยสินเชื่อสีเขียว (Green Loan) ให้กลุ่มธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และอีก 47,700 ล้านบาท เป็นการออกหุ้นกู้สีเขียว (Green Bond) และกองทุนรวมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Environmental Fund)” นายกฤษณ์กล่าว

อ้างอิง
https://www.prachachat.net/finance