Zipmex เผยปี 64 ประเทศไทยเข้าสู่ไลฟ์สไตล์ยุคการเงินดิจิทัลเต็มรูปแบบ

Zipmex เผยปี 2564 เผยคนไทยตอบรับกระแสการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลสูงมาก เทรดดิ้งวอลลุ่มเติบโตแตะระดับ 6 พันล้านเหรียญสหรัฐ ร่วมผลักดันคริปโทเคอร์เรนซี่เข้าสู่ไลฟ์สไตล์ในยุคการเงินดิจิทัลเต็มรูปแบบคิดเป็นมูลค่าเกือบ 200 ล้านบาท จากพันธมิตรร้านค้าและผู้ประกอบการ ทั้งอสังหาริมทรัพย์หรือตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ชั้นนำของประเทศ พร้อมเดินหน้าขยายตลาดในกลุ่มนักลงทุนไทยและต่างประเทศ รวมทั้งส่งเสริมให้เกิดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลที่ถูกต้อง

นายเอกลาภ ยิ้มวิไล ประธานผู้บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง Zipmex ประเทศไทย เปิดเผยว่า นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2563 ที่ Zipmex เข้ามาดำเนินกิจการในประเทศไทยจนถึงขณะนี้ได้รับการตอบรับจากเป็นอย่างดี พบว่าคนไทยให้ความสนใจและก้าวเข้าสู่การลงทุนซื้อหวยออนไลน์ถูกกฎหมายมั่นใจได้ในทรัพย์ดิจิทัลเป็นจำนวนมาก ซึ่งในปี 2564 นี้ Zipmex มีสินทรัพย์เพิ่มขึ้น 450% จากมกราคมปี 2564 มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยสูงกว่าปีที่ผ่านมา 4,800% และมีจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นกว่า 700,000 คน จากมกราคมปี 2564

ทั้งนี้ ไม่เพียงธุรกิจของ Zipmex ในไทยจะเติบโตอย่างรวดเร็ว ภาพรวมในระดับภูมิภาคทั้งใน สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และออสเตรเลียก็ขยายตัวในระดับสูง โดย Zipmex คาดว่าเทรดดิ้งวอลลุ่มจะเพิ่มขึ้น ถึงหมื่นล้านเหรียญฯ ภายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2565

โดยปัจจุบันสินทรัพย์ของบริษัทฯ รวมทุกประเทศได้มีการเพิ่มขึ้นถึง 8 เท่า ในปีที่ผ่านมา โดยมีจำนวนลูกค้าที่ทำการลงทะเบียนกับ Zipmex กว่า 1.5 ล้านคน คิดเป็นการเติบโตถึง 18 เท่าในปีนี้ นอกจากการลงทุนแล้ว การให้บริการการออมสินทรัพย์ออมดิจิทัลในแพลตฟอร์มของ Zipmex ก็มีการขยายตัวในระดับสูง จากผลิตภัณฑ์ ZipLock ด้วยเช่นกัน

นอกจากมิติทางด้านมูลค่าทางเศรษฐกิจที่เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญด้วยระยะเวลาการดำเนินงานเพียง 1 ปีแล้ว จำนวนพนักงาน Zipmex ยังเพิ่มขึ้นจากเดิมประมาณ 70 คนทั่วโลกเป็น 400 คน โดยประเทศไทยถือเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ Zipmex ได้รับใบอนุญาตการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล

“ปี 2564 ถือเป็นปีที่น่าตื่นเต้นสำหรับทั้ง Zipmex และตลาดคริปโทฯ ในประเทศไทย คนส่วนใหญ่หันมาให้ความสนใจและได้รับความเชื่อถือมากขึ้น ดังจะเห็นได้ว่าตลอดปีที่ผ่านมามีความร่วมมือหรือข้อตกลง (Partnership) ที่เกิดขึ้นจากกลุ่มทุน องค์กร หรือแม้กระทั่งสถาบันทางการเงินการธนาคารอย่างต่อเนื่อง เราเชื่อว่าตลาดคริปโทฯ ในไทยยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก จากฐานนักลงทุน และลูกค้าขนาดใหญ่ มีกำลังซื้อสูง” นายเอกลาภ กล่าว

นอกจากนี้ จะเร่งขยายจำนวนผู้ใช้เงินดิจิทัลให้มากขึ้น เนื่องจากประเทศไทยมีศักยภาพในธุรกิจเงินดิจิทัลสูงมาก เพราะมีประชากรสูงถึง 70 ล้านคน มีกำลังซื้อสูง และมีพื้นฐานความรู้สูง ซึ่งในปัจจุบันประเทศไทยมีผู้เปิดบัญชีสินทรัพย์ดิจิทัลเพียง 1.6-1.7 ล้านคน